เจาะสินค้าพืชสำคัญ ภาค ตอ. พร้อมเตรียมเสนอคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตรเป็นข้อมูลเอกภาพ

ข่าวที่ 117/2561 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561
เจาะสินค้าพืชสำคัญ ภาค ตอ. พร้อมเตรียมเสนอคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตรเป็นข้อมูลเอกภาพ
 
         กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญในการจัดทำข้อมูลการเกษตรอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านการเกษตรของประเทศ โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกันในรูปคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร  มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมทั้งได้มีคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร แต่ละด้าน ทั้งพืช ปศุสัตว์ ประมง และคณะทำงานในระดับภูมิภาคเพิ่มเติมเพื่อการจัดทำข้อมูลที่เป็นเอกภาพ ถูกต้อง และแม่นยำ
           นายฉันทานนท์  วรรณเขจร  รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืชภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2561  ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 เป็นประธาน และคณะทำงานจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร  กรมการข้าว กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รับรองข้อมูล  ได้แก่ ข้าวนาปรัง มันสำปะหลังโรงงาน เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำไย และ ลิ้นจี่ ปี 2561 ใน 9 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด  สระแก้ว  ปราจีนบุรี  นครนายก ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) ซึ่งเพาะปลูกสินค้าแต่ละชนิด (ข้อมูล ณ 18 ตุลาคม 2561) ดังนี้
           ข้าวนาปรัง ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่เพาะปลูก 777,735 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว  773,926 ไร่  ผลผลิตรวม 532,177 ตัน  ผลผลิตเฉลี่ยต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 688 กิโลกรัม/ไร่ (ณ ความชื้น 15 %)   เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่เพาะปลูกลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.40  เนื้อที่เพาะปลูก เนื้อที่เก็บเกี่ยวลดลงจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำไม่จูงใจ และมาตรการปรับลดพื้นที่ของรัฐบาล    แต่ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.36 จากผลผลิตต่อไร่ที่เฉลี่ยสูงขึ้นมา เนื่องจากมีน้ำเพียงพอ ไม่กระทบภัยธรรมชาติและโรคแมลง
          มันสำปะหลังโรงงาน ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่เพาะปลูก  921,057 ไร่  เนื้อที่เก็บเกี่ยว  895,191 ไร่  ผลผลิตรวม 3,214,462 ตัน  ผลผลิตเฉลี่ยต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 3,591  กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560  เนื้อที่เพาะปลูก  เนื้อที่เก็บเกี่ยว ลดลงร้อยละ 15.75  และ 15.99  ผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ  0.14  ส่งผลให้ผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 15.89 เนื่องจากราคาไม่จูงใจจึงปรับเปลี่ยนปลูกพืชอื่นแทนเช่นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  ยูคาลิปตัส  กล้วยไข่  มะม่วงแก้ว  ขมิ้น  ลำไย รวมทั้งพื้นที่ปลูก   มันสำปะหลังในร่องสวนยางพารา และลำไย ซึ่งไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังได้อีกเพราะต้นไม้โตคลุมพื้นที่ อีกทั้งมีการขยายพื้นที่โรงงานและที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก จึงทำให้เนื้อที่ปลูกลดลง
          เงาะ ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น  115,975 ไร่  เนื้อที่ให้ผล  112,441 ไร่  ผลผลิตรวม  173,623 ตัน  ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว  1,544  กิโลกรัม/ไร่  เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้  ผลผลิตต่อไร่  และผลผลิตรวมลดลงทั้งหมด ลดลง    ร้อยละ 1.62   0.90  9.02 และ 9.81  ตามลำดับ  สาเหตุจากราคาเงาะไม่จูงใจให้ขยายพื้นที่  เกษตรกรตัดโค่นเพื่อปลูกทุเรียนทดแทน  อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวนช่วงเงาะออกดอกมีฝนตกชะดอกทำให้ดอกเงาะร่วง 
         ทุเรียน ปี 2561  มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น  323,205 ไร่  เนื้อที่ให้ผล  268,867 ไร่  ผลผลิตรวม 405,414 ตัน  ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว  1,508 กิโลกรัม/ไร่  เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น และเนื้อที่ให้ผล  เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.69 และ 4.33   เนื่องจากราคาทุเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีติดต่อกันมานานหลายปี  และทุเรียนที่ปลูกในปี 2556 เริ่มให้ผลได้เป็นปีแรกเพิ่มขึ้น ผลผลิตต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 8.38  และ 4.40  เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในปีนี้แต่ละวันมีทั้งอากาศร้อน  ฝนตก และหนาวเย็น        ต้นทุเรียนปรับสภาพต้นไม่ทัน  ทุเรียนออกใบอ่อนแทนการออกดอก และรุ่นที่ออกดอกได้ประสบพายุ ลมฝน ดอกร่วง และสภาพผลทุเรียนไม่สวยได้น้ำหนักเฉลี่ยต่อลูกลดลง ทำให้ผลผลิตรวมลดลง    
            มังคุด ปี 2561  มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น  202,203 ไร่  เนื้อที่ให้ผล  196,146 ไร่  ผลผลิตรวม  54,476  ตัน  ผลผลิตต่อ   เนื้อที่เก็บเกี่ยว  278 กิโลกรัม/ไร่  เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้นลดลงร้อยละ 0.28 เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.49  ส่วนผลผลิต ต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 65.34  และ 64.84 เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดมีฝนตกชุก มังคุดออกใบอ่อนแทนการออกดอก ส่วนที่ออกดอกออกประปรายไม่เต็มต้นทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงมาก  ส่งผลให้ผลผลิตรวมลดลงตาม
           ลองกอง ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น  44,302 ไร่  เนื้อที่ให้ผล  42,938 ไร่  ผลผลิตรวม  16,501  ตัน  ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว  384 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผล  ผลผลิตต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงทั้งหมดร้อยละ 8.89   6.80   27.00 และ 31.94 ตามลำดับ เนื่องจากราคาลองกองตกต่ำมาหลายปี  เกษตรกรทยอยโค่นต้นทิ้งปรับปลูกทุเรียนทดแทน  อีกทั้งลองกองจะออกดอกได้ต้นลองกองจะต้องขาดน้ำใบสลดเหลือง ซึ่งสภาพอากาศที่แปรปรวนมีฝนชุก ทำให้ลองกองไม่ขาดน้ำ     จึงออกดอกได้น้อย ส่งผลให้ผลผลิตลดลง
           ลำไย ปี 2561 มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 274,735  ไร่  เนื้อที่ให้ผล  256,900 ไร่  ผลผลิตรวม 348,417 ตัน  ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว  1,356 กิโลกรัม/ไร่  เมื่อเทียบกับปี 2560  เนื้อที่ยืนต้น  เนื้อที่ให้ผล เพิ่มขึ้นร้อยละ  0.77 และ 16.60 ตามลำดับ    ส่วนผลผลิตต่อไร่ และผลผลิตรวมลดลงร้อยละ 22.87  และ 10.01  ตามลำดับ  เนื่องจากราคาลำไยที่ดีต่อเนื่องมานานหลายปีเกษตรกรได้ปลูกเพิ่มและเริ่มมีปัญหาราคาในช่วงปลายปี 2560 เกษตรกรจึงปรับสลับแปลงต้นที่สมบูรณ์บังคับออกดอก  และพักแปลงลำไยต้นไม่สมบูรณ์เพื่อพักต้นไม่ให้ผลผลิตออกกระจุกช่วงเดียวกัน อีกทั้งแปลงที่บังคับสารโพแทสเซียมคลอเรตช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2561 (จะสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนตุลาคม- ธันวาคม 2561) การบังคับออกดอกไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมีฝนตกทำให้ลำไยไม่ติดดอก ในแหล่งผลิตใหญ่ของจันทบุรี  จึงทำให้ผลผลิตรวมลดลง  
          ลิ้นจี่ ปี 2561  มีจำนวนเนื้อที่ยืนต้น 2,193 ไร่  เนื้อที่ให้ผล 1,943 ไร่  ผลผลิตรวม 1,989  ตัน  ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 1,024 กิโลกรัม/ไร่  เมื่อเทียบกับปี 2560  เนื้อที่ยืนต้น เนื้อที่ให้ผลลดลงร้อยละ  2.01   2.26  ตามลำดับ  เนื่องจากลิ้นจี่ที่เกษตรกรปลูกในจังหวัดจันทบุรี แหล่งเดียว ได้ผลผลิตไม่คุ้มค่าเกษตรกรโค่นต้นไปปลูกทุเรียนทดแทน  ผลผลิตต่อไร่ต่อเนื้อที่ให้ผล  ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ  88.24   83.83  ตามลำดับ  เนื่องจากปีที่ผ่านๆมาลิ้นจี่ออกผลน้อยได้พักต้นปีนี้จึงให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น
         ทั้งนี้ คณะทำงานฯ จะได้นำเสนอข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร ด้านพืช เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อมูลก่อนนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นข้อมูลเอกภาพของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเผยแพร่และใช้ประโยชน์ต่อไป
***********************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี